HoloLens2 for Enhance frontline worker 

with Dynamics 365 Guides

จะว่าไปโปรแกรมที่ใช้งานบน HoloLens ตัวนี้ก็ไม่ใช่โปรแกรมใหม่แต่เป็นโปรแกรมเก่าที่ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จาก Microsoft ที่มุ่งเน้นในการเพิ่มประสิทธิ์ภาพของกระบวนการทำงานหน้างาน

โดยเมื่อก่อนโปรแกรม Dynamics 365 Guides ถ้าผู้ให้เข้าใจง่าย ๆ คือ AR Work instructions แบบ Low-code หรือ โปรแกรมคู่มือขั้นตอนการทำงานในรูปแบบ AR 3 มิติ ผ่านแว่น HoloLens ที่ผู้ใช้งานสร้าง content หรือคู่มือการทำงานโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่อง coding ผู้ใช้งานแค่ใส่และทำตามขั้นตอนการทำงานที่อยู่ในแว่นได้

ปัญหาหน้างานของ frontlines worker หลัก ๆ เลย คือ เกิดปัญหาหาทางออกไม่ได้ กระบวนการผลิตจะหยุดชะงัก หรือเรียกอีกอย่างว่าเกิด downtimes ขึ้น (เป็นสิ่งที่ทุกที่ ไม่อยากให้เกิด)

Microsoft HoloLens 2 ด้วยโปรแกรม Dynamics 365 Guides สิ่งที่ทีมงานต้องการคือการที่มีคนช่วยแก้ปัญหาได้ จากผู้ที่เชี่ยวชาญ ระยะไกลผ่าน Microsoft HoloLens2 และ Microsoft Teams อันนี้เป็นอีก 1 โซลูชั่นที่เป็นทางออก

คราวนี้ถ้าเกิดปัญหาบ่อย ๆ หรือมีความซับซ้อนมากขึ้น การใช้งานโปรแกรม Dynamics365 Guides สามารถทำเป็นขั้นตอนที่ในการซ่อนหรือการแก้ปัญหาได้ หรืออยู่กันคนละที่ก็สามารถทำเก็บไว้ ให้คนที่อยู่หน้างานเปิดไว้ใช้ในการเป็น Work instructions ในการแก้ปัญหา ง่าย ๆ ไม่ต้อง เขียนโปรแกรมเป็น

หรือแม้แต่จะทำเป็นขั้นตอนแบบ วีดีโอ เพื่อความรวดเร็วในการแก้ปัญหา

อีกทั้งตอนนี้ยังรองรับในแนะนำผ่านโปรแกรม Microsoft Teams ได้ทันที โดยเฉพาะการเขียนหรือ mark บอกตำแหน่งที่ถูกต้องในการแก้ปัญหา (ดีสุด ๆ )

สนใจอยากทดลองใช้ ติดต่อมาได้เลยครับ ทางเรา implement ไปแล้วหลายที่ในไทยครับ

Thai Traditional medicine with Microsoft HoloLens2

การแพทย์แผนไทยกับ HoloLens

“Demo Siriraj Applied Thai Traditional Medicine (SI-ATM2023)”

เรียบเรียงโดย Jaruwan

เมื่อเดือนเมษายน 2023 ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ร่วมเป็นวิทยากรในงาน 1st Siriraj Surgical Innovation Forum 2023 “จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำของการสร้างงานนวัตกรรม” โดยเราได้นำเทคโนโลยี Mixed Reality (Microsoft HoloLens) พร้อมด้วยโซลูชันด้านการแพทย์ ได้แก่ การแสดงโมเดลกายวิภาคมนุษย์ 3 มิติ รวมไปถึงการจำลองสถานการณ์การรักษาผู้ป่วยทางคลินิกไปแสดงในงาน เกิดเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการ

จากความสนใจของทางคณะอาจารย์แพทย์ การแพทย์แผนไทยประยุกต์ศิริราช ที่ต้องการจะนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ประกอบการเรียนการสอนด้านการนวดแผนไทยบนแว่น HoloLens2 บริษัทได้เริ่มหารือกับคณะอาจารย์ โดยเริ่มจากการแสดงโมเดลกายวิภาคของมนุษย์ในรูปแบบ 3 มิติ พร้อมกับศัพท์ด้านการแพทย์แผนไทยในการแสดงโครงสร้างร่างกายระบบต่างๆ ในงานนิทรรศการตามรอย… โรงเรียนหมอหลวง กับการแพทย์แผนไทยประยุกต์ศิริราช ณ ศาลาศิริราช 100 ปี  

“Demo Siriraj Applied Thai Traditional Medicine (SI-ATM2023)”

ทั้งนี้ ด้วยระบบต่างๆ ของร่างกายซึ่งมีความสัมพันธ์กันในแต่ละส่วน เกิดเป็นการพัฒนาต่อเนื่องของโปรเจคสำหรับการเรียนรู้ด้านการนวดแผนไทย ในการระบุตำแหน่งจุดกดตามร่างกายและความสัมพันธ์ระหว่างจุดกดต่างๆ ผ่านแว่น HoloLens2 โดยการนำโมเดล 3 มิติในโลกเสมือนที่มีสัญลักษณ์ระบุตำแหน่งจุดกด มาซ้อนทับกับคนในโลกจริงด้วยเทคโนโลยี Mixed Reality เกิดเป็นโปรเจคที่ทางเราเรียกกันง่ายๆ ผ่าน Code name ที่ชื่อว่ากายทิพย์  

Autodesk Fusion360 What’s new Sep 2023 (Part Design)

Autodesk Fusion 360 – มีอะไรใหม่บ้างในเวอร์ชั่น กันยายน 2023 (Part Design)

อ้างอิง https://www.autodesk.com/products/fusion-360/blog/september-2023-product-update-whats-new/

ต้องบอกก่อนเลยว่า Fusion360 ในแต่ละเวอร์ชั่นที่พัฒนามาเรื่อย ๆ นั้นมาจาก road map ของแผนการพัฒนาโปรแกรม และความเห็นของผู้ใช้งานโปรแกรม ทำให้โปรแกรม Autodesk Fusion 360 นั้นมีการผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในเดือนกันยายนนี้ มีฟีเจอร์ อัปเดต และการปรับปรุงใหม่ ๆ ที่น่าสนใจอะไรบ้าง

การอัพเดตประสิทธิภาพทั่วไป

การใช้งานทั่วไป

  • มีการปรับปรุงประสิทธิ์ภาพให้เลื่อนหรือขยับเมาส์ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม
  • การขยายโหนดเบราว์เซอร์ของส่วนประกอบภายนอกได้รับการปรับปรุงประมาณ 106% สำหรับไฟล์การออกแบบบางไฟล์ (ขยายพื้นที่บางส่วน)
  • การสลับแท็บเอกสารสำหรับไฟล์ออกแบบบางไฟล์สามารถทำได้ทันที
  • การเปลี่ยนไปใช้พื้นที่ทำงานแอนิเมชันจากพื้นที่ทำงานออกแบบได้รับการปรับปรุงถึง 7.3 เท่าสำหรับงานประกอบขนาดใหญ่
  • การใช้หน่วยความจำโดยรวมสำหรับการ export ไฟล์ลง 1.7 เท่า

งานประกอบ

  • การปิด Fusion 360 ในขณะที่ชุดประกอบขนาดใหญ่เปิดอยู่จะเร็วขึ้นถึง 6.6 เท่า
  • การปิดแอสเซมบลีขนาดใหญ่บน Mac OS เร็วขึ้นสูงสุด 4 เท่า
  • ตอนนี้ Fusion 360 ตอบสนองได้ดีขึ้นในระหว่างการแก้ไข Joint หรือเพิ่ม As-Built Joint ขณะอยู่ในโหมด Edit-in-place สำหรับแอสเซมบลีขนาดใหญ่

Modeling

  • ประสิทธิภาพของคำสั่งเริ่มต้น/เสร็จสิ้น/ยกเลิกการแก้ไข คำสั่งร่วมได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญจากชุดประกอบขนาดใหญ่ชั้นนำ
  • ขณะนี้การเปิดไฟล์โมเดลบางไฟล์เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 1.5 เท่า และการเพิ่มประสิทธิภาพนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อการคำนวณของการออกแบบเหล่านี้อีกด้วย
  • ไฟล์ Open STEP ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพ
  • ซ่อนประวัติการออกแบบเร็วขึ้นสูงสุด 31.6 เท่า และการคัดลอกไปยังการออกแบบใหม่เร็วขึ้นประมาณ 4.6 เท่าสำหรับไฟล์การออกแบบเหล่านั้น
  • ประสิทธิภาพการแสดงตัวอย่างของ Insert SVG และ DXF ได้รับการปรับปรุงแล้ว

Design

ในที่สุดเวลาที่หลายๆ คนรอคอยก็มาถึงแล้ว! ตั้งแต่การอัพเดตเดือนกันยายน 2023 คุณจะใช้การกำหนดค่าได้แล้ว การกำหนดค่าช่วยให้คุณใช้ตรรกะพาราเมตริกซ้ำเพื่อสร้างรูปแบบต่างๆ ของการออกแบบได้ คุณอาจใช้การกำหนดค่าเพื่อสร้างกลุ่มชิ้นส่วนในสายผลิตภัณฑ์ กำหนดตัวเลือกวัสดุและรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน สร้างชุดประกอบตัวแปรที่ซับซ้อน หรือแสดงขั้นตอนในขั้นตอนการผลิตของคุณ

ในพื้นที่ทำงานการออกแบบ ให้ใช้คำสั่งบนแผงกำหนดค่าใหม่เพื่อสร้างการออกแบบที่กำหนดค่าใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น หรือเปิดการออกแบบมาตรฐานที่มีอยู่แล้วกำหนดค่า

  • คุณสมบัติและวัตถุที่กำหนดค่าได้จะถูกเน้นด้วยสีน้ำเงินในบราว์เซอร์และไทม์ไลน์
  • คลิกคุณลักษณะหรือ Object ที่ไฮไลต์เพื่อดูรายการลักษณะที่กำหนดค่าได้ จากนั้นตรวจสอบลักษณะเพื่อเพิ่มเป็นคอลัมน์ในตารางการกำหนดค่า
  • เพิ่มการกำหนดค่าลงในตารางและแก้ไขค่าสำหรับการกำหนดค่าแต่ละรายการ
  • ดับเบิลคลิกเพื่อเปิดใช้งานการกำหนดค่าต่างๆ เพื่อดูความแตกต่าง หรือใช้รายการแบบเลื่อนลงในเบราว์เซอร์เมื่อปิดตาราง
  • ย้ายลักษณะที่คล้ายกันไปยังตารางธีมแบบกำหนดเองเพื่อลดความซับซ้อนหรือผู้เขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • แทรกหรือดัดแปลงเป็นรูปแบบอื่นๆ
  • กำหนดค่าการกำหนดค่าที่แทรกเพื่อสร้างการกำหนดค่าที่ซ้อนกัน
  • สร้างแบบร่างสำหรับการกำหนดค่าแต่ละรายการ
  • คัดลอกการกำหนดค่าการวาดและสวิตช์เพื่อประหยัดเวลาในการสร้างภาพวาดสำหรับการกำหนดค่าแต่ละรายการ

สลับไปยังพื้นที่ทำงานอื่นและเปิดใช้งานการกำหนดค่าที่แตกต่างกันเพื่อใช้ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

  • สร้างสตอรี่บอร์ดในแอนิเมชั่น
  • สร้างภาพที่เรนเดอร์ใน Render
  • ตั้งค่า แก้ปัญหา และเปรียบเทียบการศึกษาสถานการณ์จำลอง
  • สร้างและเปรียบเทียบการศึกษา Generative Design
  • สร้างการตั้งค่าการผลิตและสร้างเส้นทางเครื่องมือ
  • ดูการออกแบบที่กำหนดค่าไว้และการกำหนดค่าในทีม Fusion

คุณสมบัติใหม่ในงาน Sheet Metal ด้วยคำสั่ง Rip

Sheet Metal Rip เป็นคุณสมบัติที่รอคอยกันมานานในพื้นที่ทำงานของ Sheet Metal คุณสมบัติที่คุณควรลองใช้ดู สิ่งที่เครื่องมือ Rip ทำคือการสร้างแบบจำลองการแยกส่วนในชิ้นส่วนโลหะแผ่นของคุณโดยอัตโนมัติ ซึ่งจำเป็นในการคลี่ แผ่ให้เรียบ และผลิตชิ้นส่วน หากต้องการเข้าถึงเครื่องมือนี้ เพียงไปที่แท็บแก้ไข เลือกใบหน้าที่คุณต้องการ Rip หรือเลือกสองจุดเพื่อกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของ Rip และความกว้างของช่องว่างที่จะสร้าง เช่นเดียวกับที่ตอนนี้คุณสามารถใช้เครื่องมือ Rip ใหม่เพื่อสร้างการฉีกขาดเพื่อให้คุณสามารถคลี่/ทำให้โครงโลหะแผ่นของคุณแบนได้อย่างง่ายดาย! คุณลักษณะนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สร้างชิ้นส่วนโลหะแผ่นที่มีลักษณะยกสูง เช่น ท่ออากาศ เครื่องดูดควัน หรือกรวย

ปรับปรุงการ T-Spline ใน Bevel Edge

Form contextual environment > Modify > Bevel Edge

ก่อนหน้านี้ ใบหน้าที่ไม่ใช่รูปสี่เหลี่ยมซึ่งถูกสร้างขึ้นที่จุดตัดของขอบที่เลือก ขัดขวางการไหลของเส้นโค้งที่เข้ามา ตอนนี้ ส่วนต่างๆ มีระยะห่างเท่าๆ กันและดำเนินต่อไปตามขอบที่เลือกผ่านใบหน้าที่ไม่ใช่รูปสี่เหลี่ยมเพื่อสร้างการเปลี่ยนเส้นโค้งที่ราบรื่น

ปรับปรุงตัวเลือกการตั้งค่าสำหรับใบหน้าที่ไม่ใช่รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสในส่วนย่อย

Form contextual environment > Modify > Subdivide

ก่อนหน้านี้ คุณสามารถแบ่งย่อยเฉพาะใบหน้าที่ไม่ใช่รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่อยู่ตรงกลางเท่านั้น ตอนนี้คุณสามารถระบุจำนวนใบหน้าเพื่อแบ่งย่อยใบหน้าที่ไม่ใช่รูปสี่เหลี่ยมตามแต่ละขอบได้

ปรับปรุง 3D Sketch

ในการอัปเดตนี้ คุณจะสามารถใช้ข้อจำกัดกับเส้นและจุดในพื้นที่ 3 มิติได้ ข้อจำกัดเหล่านี้รวมถึงจุดที่เกิดขึ้นพร้อมกันกับพื้นผิว เส้นขนานกับพื้นผิวระนาบ เส้นบนพื้นผิวระนาบ ระยะห่างระหว่างจุดและระนาบ พื้นผิวทรงกระบอกหรือทรงกลม ระยะห่างระหว่างเส้นและพื้นผิวระนาบ ตั้งฉากระหว่างเส้นกับพื้นผิว ตั้งฉากระหว่างเส้นโค้ง (ทั้งจุด CV และจุดที่พอดี) และพื้นผิว นอกจากนี้ ขณะนี้คุณสามารถลากจุดและเส้นไปรอบๆ ผืนผ้าใบได้เหมือนในภาพร่าง 2D ทำให้สามารถควบคุมจุดและเส้นของคุณในพื้นที่ 3D ได้ดีขึ้น

ขอแนะนำหน่วยการเปลี่ยนแปลงสำหรับพารามิเตอร์

ก่อนหน้านี้ เมื่อคุณสร้างพารามิเตอร์ หน่วยของพารามิเตอร์จะถูกตั้งค่าไว้เป็นหินและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นี่ไม่ใช่กรณีอีกต่อไป! ตอนนี้คุณสามารถเปลี่ยนหน่วยของพารามิเตอร์ผู้ใช้ที่มีอยู่ได้แล้ว

ความแตกต่างระหว่างแบบจำลอง 3 มิติ กับ CAD

ซอฟต์แวร์ CAD คืออะไร ?  
CAD ( Computer-Aided Design ) คือ การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการสร้าง แก้ไข วิเคราะห์ และเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบ โดยทำการเก็บข้อมูลในรูปแบบดิจิตอล ซึ่งการใช้ซอฟต์แวร์ในการออกแบบจะมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากกว่าการออกแบบด้วยมือเปล่า ( Non-digital techniques ) เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยนการออกแบบและจำลองการทดสอบในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ง่าย ในการออกแบบ 3 มิติ และเก็บข้อมูลในรูปแบบดิจิตอลทำให้ในด้านสิทธิบัตรสำหรับการออกแบบมีมาตรฐานมากขึ้นและง่ายต่อการติดตามข้อมูล 

ความแตกต่างระหว่างการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ( 3D modeling ) กับ CAD ( Computer-Aided Design ) 
การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ( 3D modeling ) ได้รับการออกแบบมาให้เป็นการสร้างรูปร่างที่อิสระ เช่น การสร้างตัวละครสำหรับภาพยนตร์แอนิเมชัน ซึ่งต่างจากการขึ้นรูปโดยสมการอิงตัวแปร ( Parametric Solid modeling ) หรือ CAD มักมีไว้เพื่อใช้ในทางที่เกี่ยวข้องกับการสร้างวัตถุที่มีความแม่นยำ เช่นงานทางด้านวิศวกรรม ที่สามารถใช้เพื่อสร้างงานที่ซ้ำกันได้อย่างแน่นอนด้วยคุณสมบัติทางด้านคณิตศาสตร์และพารามิเตอร์ โดยบางครั้งซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ได้ผสมผสานการออกแบบทั้งสองรูปแบบเข้าด้วยกัน จึงหาความแตกต่างที่ชัดเจนได้ยาก 

ซอฟต์แวร์ CAD ใช้สำหรับอะไร 
งานจำนวนมากต้องใช้ซอฟต์แวร์ CAD เช่น วิศวกรหรือนักออกแบบที่ทำงานด้านเครื่องกล ไฟฟ้า การผลิต อุตสาหกรรม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในหลากหลายสาขา ( การบินและอวกาศ ทางการแพทย์ หรือทางด้านศิลปะ ) ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในการสร้างแบบจำลองมาตรฐาน 2 มิติ และ 3 มิติ โดยสามารถใช้ในการออกแบบการจำลองผลิตภัณฑ์ หรือคำนวณต้นทุนและตรวจสอบการผลิตได้อีกด้วย 

่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ต้องเสียไปกับซอฟต์แวร์ CAD ประมาณเท่าไหร ? 
         ค่าใช้จ่ายของซอฟต์แวร์ CAD จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการสร้างแบบจำลองและวัตถุประสงค์ในการสร้างแบบจำลองของผู้ใช้  โดยทั่วไปจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 40,000 บาท/ปี ไปจนถึง 200,000 บาท/ปี โดยซอฟต์แวร์ที่มีราคาสูงนั้นเป็นที่ต้องการสำหรับทีมวิศวกรรมที่ทำงานกับโมเดลที่มีความซับซ้อนสูง อย่างไรก็ดี ยังมีซอฟต์แวร์อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพราะมีราคาที่ถูกกว่ามากพร้อมคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่ลดหลั่นลงมา โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท/เดือน 

  

Fusion 360 ซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ใหม่ 
ด้วยอินเทอร์เฟซที่สามารถเข้าใจได้ง่าย ซึ่งกระบวนการจำลองการออกแบบที่สมจริง สามารถเริ่มต้นการออกแบบได้ทันทีด้วยชุดเครื่องมือที่หลากหลายภายในตัวซอฟต์แวร์ ทำให้สามารถพัฒนาทักษะในการทำงานได้อย่างไม่ถูกจำกัด  
แม้จะไม่มีเครื่องมือพิเศษที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมการออกแบบเชิงกลไกและการออกแบบที่ซับซ้อนเหมือนกับซอฟต์แวร์อื่น แต่ความเรียบง่ายของ Fusion 360 และต้นทุนที่ต่ำกว่าทำให้ได้เปรียบในการผลิตชิ้นงานที่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป เป็นเครื่องมือ 3D CAD, CAM และ CAE ที่ทำงานบนคลาวด์ โดยเน้นในด้านการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ โดยเนื่องจากทำงานบนคลาวด์ทำให้มีพื้นที่จัดเก็บและการเข้าถึงที่ไม่จำกัด ช่วยให้ข้อมูลปลอดภัยและการทำงานร่วมกันได้ 
แบบเรียลไทม์ และยังมีเครื่องมือที่ครบครันและตอบโจทย์การออกแบบ พร้อมด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยง่ายต่อการเข้าใจสำหรับผู้ใช้ใหม่ มีคอมมูนิตี้สำหรับฝึกการใช้งานด้วยตัวอย่างการออกแบบที่ติดตั้งอยู่บนคลาวด์ที่สามารถเรียกใช้งานได้ทันทีโดยตรงจากซอฟต์แวร์และมีราคารายเดือนที่ไม่สูงจนเกินไปถ้าเทียบกับคุณภาพของซอฟต์แวร์ที่ได้รับ และยังรองรับการทำงานผ่านระบบปฏิบัติการ Windows และ MacOS อีกด้วย 

อ้างอิง : https://www.expertreviews.co.uk/software/1416934/best-cad-software 

Microsoft HoloLens ที่มีมานานนับเกือบ10ปี  ก่อนที่จะเริ่มต้นมี Apple

Microsoft HoloLens ที่มีมานานนับเกือบ10ปี  ก่อนที่จะเริ่มต้นมี Apple

กระแสความคึกคักของเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) กลับมาอีกครั้งด้วย 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ ระหว่าง Microsoft และ Apple ทีได้สร้างกระแสความตื่นตัวขึ้นมา   ในขณะที่ Apple  เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ตอบโจทย์เทคโนโลยี AR ในปี 2023   แต่เมื่อประมาณเกือบ10ที่ผ่านมา ทาง Microsoft ได้บุกเบิกเรื่องเหล่านี้มาแล้วด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทคโนโลยี AR นี้ นั่นคือ Microsoft HoloLens

จุดเริ่มต้นของ Microsoft HoloLens :  การปฏิวัติวงการเทคโนโลยี AR

Microsoft HoloLens ได้ก้าวเข้ามาสู่ตลาดและได้เปลี่ยนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับ AR ไปตลอดกาล อุปกรณ์นี้ได้เปิดตัวพร้อมกับคำมั่นสัญญาจะผสมผสานกันระหว่างโลกเสมือนจริง (ดิจิตอล) และโลกจริงเข้าด้วยกัน  ทำให้อุปกรณ์นี้เป็นผู้นำในการปฏิวัติวงการเทคโนโลยี AR ด้วยอินเตอร์เฟสที่ใช้งานได้อย่างง่ายดายจนเกิดความรู้สึกอันน่าทึ่งในช่วงเวลาชั่วข้ามคืน มากไปกว่านั้น Microsoft HoloLens ยังนำเสนอเทคโนโลยี Mixed Reality (MR) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง (Augmented Reality)AR และ Virtual Reality (VR) เป็นแนวคิดตั้งแต่เริ่มต้นจนมาเป็นกระแสหลักในปัจจุบัน


Microsoft HoloLens : นวัตกรรมเหนือการจินตนาการ

Microsoft HoloLens มาพร้อมกับลูกเล่นมากมาย ซึ่งบางลูกเล่นก็เป็นเจ้าแรกแห่งวงการอุตสาหกรรม  ตัวอย่างเช่น Spatial Mapping (ระบบการสร้างโฮโลแกรมบนพื้นที่โลกแห่งความจริง) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกันได้ระหว่าง โลกดิจิตอลและโลกจริงไปพร้อมๆ กัน , Spatial Sound (ระบบเสียงตามทิศทางและตำแหน่ง)  เป็นลูกเล่นการได้ยินแบบ 3 มิติ ทำให้สิ่งแวดล้อมแบบ AR สมจริงมากยิ่งขึ้น และยังมีการนำเสนอเทคโนโลยี  Gaze Tracking (ระบบการตรวจจับและวิเคราะห์ดวงตา) ที่ทำให้อุปกรณ์นี้รู้ถึงว่าผู้ใช้งานมองเห็นอะไร  ให้ความรู้สึกตอบสนองได้อย่างเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ

Microsoft HoloLens : อนาคตแห่งโลกอุตสาหกรรม

Microsoft HoloLens ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีเท่านั้น  มันยังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม ตั้งแต่การดูแลสุขภาพไปจนถึงด้านการศึกษาและความบันเทิง , Microsoft HoloLens มีแอปพลิเคชันต่างๆ มากมาย ที่สามารถใช้งานได้ทุกสถานที่ อาทิเช่น งานด้านศัลยแพทย์สามารถนำไปใช้วางแผนการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน , นักศึกษาสามารถนำไปใช้เพื่อการเรียนรู้ทางไกลร่วมกัน และสถาปนิกสามารถนำไปใช้เพื่อการออกแบบโครงสร้างในรูปแบบ 3 มิติ  แอปพลิเคชันเหล่านี้ยังมีความสำคัญในปัจจุบัน จึงกล่าวได้ว่า Microsoft HoloLens เป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง

การเข้าสู่วงการ AR ของ Apple : ในช่วงเวลาต่อมา
เร็วๆ นี้ ปี ค.ศ. 2023 , บริษัท Apple ได้ออกผลิตภัณฑ์ AR ที่เป็นของตัวเอง  ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Apple แต่คุณสมบัติหลายๆ อย่างที่ทาง Apple นำเสนอกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft HoloLens ที่มีมานานนับหลายปี   อุปกรณ์ AR ของ Apple ได้แสดงคุณสมบัติ อาทิเช่น 3D Sound , Gaze Tracing และ Spatial Mapping  ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ใน Microsoft HoloLens ที่มีผู้ใช้งานมานานนับเกือบ10ปี

Apple AR : ถูกสร้างขึ้นมาจากความสำเร็จของ Microsoft HoloLens
มันไม่เป็นความลับอีกต่อไปเมื่อการเข้าสู่ AR ของ Apple นั้นเกิดมาจากความสำเร็จของ Microsoft HoloLens เพราะมีคุณสมบัติหลายอย่างที่คล้ายคลึงกัน  จึงเห็นได้ชัดว่านวัตกรรมของ Microsoft ได้ชี้นำเส้นทางสำหรับ Apple. สิ่งนี้ไม่ใช่ข้อผิดพลาด แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่า Microsoft HoloLens ล้ำหน้าอย่างแท้จริง และเป็นมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรม ARMicrosoft VS Apple  : วิวัฒนาการของ ARในขณะที่การเข้าสู่เทคโนโลยี AR ของ Apple นั้นเป็นการพัฒนาที่สำคัญ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องรู้ถึงรากฐานของ Microsoft HoloLens.  Microsoft HoloLens ไม่เพียงแค่ทำให้พวกเรารู้จักกับเทคโนโลยี AR  เท่านั้นมันยังมีความสามารถในการเรียนรู้และตอบสนองกับสภาพแวดล้อมที่เป็นดิจิทัล  และถึงแม้ว่าอุปกรณ์ AR ของค่าย Apple เองก้าวไปถึงจุดนั้นได้  แต่หลายๆ คุณสมบัติของนวัตกรรมต่างๆนั้น มันเริ่มต้นมาจากโดย  Microsoft

สรุป : ทศวรรษแห่งความก้าวหน้าของ AR

Microsoft HoloLens ได้ปฏิวัติตลาด AR อย่างไม่ต้องสงสัย  แม้ว่าการเข้ามาของ Apple จะได้รับการตอบรับและจะขยายตลาดออกไป แต่ก็ยังยืนอยู่บนไหล่ของ Microsoft HoloLens ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรม AR ซึ่งยังคงเติบโตและพัฒนาต่อไป

A Comprehensive Look: How Microsoft HoloLens Paved the Way, a Decade Before Apple | by Sankalp Pathak | Jul, 2023 | Medium

HoloPatient

เป็นโปรแกรมจำลองสถานการณ์ทางคลินิก ส่วนหนึ่งของโปรแกรม GiG XR เหมาะสำหรับการศึกษาผู้ป่วยเสมือนจริงที่ได้มาตรฐาน เรียนรู้ได้จากทุกที่ทั้งระยะใกล้ และระยะไกล สามารถออกแบบแผนการเรียนรู้เองได้ อีกทั้งยังสามารถแชร์ประสบการณ์เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มได้ ตัวโปรแกรมสามารถปรับสัญญาณชีพผู้ป่วยเพื่อฝึกทำการวิเคราะห์ และสามารถเพิ่ม Label เพื่อระบุส่วนที่สำคัญๆได้

ปัจจุบันตัวโปรแกรมสามารถสร้างสถานการณ์ได้มากถึง 16 สถานการณ์ มีดังนี้

  • แผลไฟไหม้
  • โรคภูมิแพ้
  • ภาวะการกระทบกระเทือนทางจิตใจ
  • โรคเบาหวาน
  • ภาวะการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  • ภาวะหัวใจล้มเหลว
  • โรคหลอดเลือดสมอง
  • โรคหอบหืด
  • โควิด-19
  • ภาวะสมองเสื่อม
  • โรคพาร์กินสัน
  • ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ
  • กระดูกสะโพกหัก
  • ภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • กล้ามเนื้อหัวใจตาย

HoloLens คืออะไร

โฮโลเลนส์ คือแว่น MR ที่ทาง Microsoft ได้พัฒนาขึ้น จุดเด่นของแว่น MR ที่ต่างจาก AR คือสามารถใช้ท่าทางของมือ (Hand gestures) ในการโต้ตอบกับภาพโฮโลแกรมที่แสดงในแว่นได้ ความแตกต่างระหว่างแว่น MR และแว่น VR (เช่น Oculus Quest) คือเลนส์ของแว่น MR เป็นเลนส์กึ่งโปร่งแสง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองทะลุจอแสดงผลภาพโฮโลแกรมไปเห็นสภาพแวดล้อมจริง ๆ ได้ ในขณะที่แว่น VR ไม่สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมจริงได้ ยกเว้นแต่จะดึงภาพจากกล้องที่ติดตั้งไว้มาแสดงผลแทน ดังนั้นแว่น MR Microsoft HoloLens จึงเหมาะกับงานที่ต้องมองเห็นสภาพแวดล้อมภายนอกด้วย เช่น งานแสดงผลข้อมูลเครื่องจักรในไลน์ผลิต งานเทรนนิ่งต่าง ๆ หรืองานที่เป็นการแมพภาพโฮโลแกรมเข้ากับสภาพแวดล้อมจริง เป็นต้น

งานแสดงผลข้อมูลของเครื่องจักร เครื่องจักรในไลน์ผลิตควรสามารถเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับเน็ตเวิร์กได้ เป็นอุปกรณ์จำพวก IoT (Internet of Things) หรือ IIoT (Industrial Internet of Things) เพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูลขณะกำลังผลิตกับแว่น MR ได้แบบ real-time การรับส่งข้อมูลพื้นฐานสามารถใช้โปรโตคอล MQTT เป็นตัวกลางระหว่างเครื่องจักรกับแว่น MR ได้ โดยตั้งค่าโบรกเกอร์กลาง (MQTT Broker) และตั้งค่าหัวข้อ (Topics) สำหรับรับส่งข้อมูลให้ตรงกัน ข้อดีของโปรโตคอล MQTT คือ สามารถรับส่งเป็นข้อความได้เลย (string) ทำให้สามารถเซ็ตอัพข้อมูลและทำความเข้าใจได้ง่าย เป็นจุดเด่นของการพัฒนาแอพลิเคชันสำหรับทำ Data visualization บนแว่น MR เลยทีเดียว

งานทางด้านเทรนนิ่งทางบริษัทก็ได้มีซอฟท์แวร์สำหรับทำคู่มือเทรนนิ่งแบบ MR ใช้ร่วมกับแว่น Microsoft HoloLens 2 ไว้ด้วย หรือถ้าหากประเมินแล้วว่าต้องการให้แอพลิเคชันที่ใช้เทรนนิ่งมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นก็สามารถปรึกษาเพื่อทำ Custom application ให้เหมาะกับงานนั้น ๆ ได้เช่นกัน