Microsoft HoloLens ที่มีมานานนับเกือบ10ปี  ก่อนที่จะเริ่มต้นมี Apple

Microsoft HoloLens ที่มีมานานนับเกือบ10ปี  ก่อนที่จะเริ่มต้นมี Apple

กระแสความคึกคักของเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) กลับมาอีกครั้งด้วย 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ ระหว่าง Microsoft และ Apple ทีได้สร้างกระแสความตื่นตัวขึ้นมา   ในขณะที่ Apple  เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ตอบโจทย์เทคโนโลยี AR ในปี 2023   แต่เมื่อประมาณเกือบ10ที่ผ่านมา ทาง Microsoft ได้บุกเบิกเรื่องเหล่านี้มาแล้วด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทคโนโลยี AR นี้ นั่นคือ Microsoft HoloLens

จุดเริ่มต้นของ Microsoft HoloLens :  การปฏิวัติวงการเทคโนโลยี AR

Microsoft HoloLens ได้ก้าวเข้ามาสู่ตลาดและได้เปลี่ยนองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับ AR ไปตลอดกาล อุปกรณ์นี้ได้เปิดตัวพร้อมกับคำมั่นสัญญาจะผสมผสานกันระหว่างโลกเสมือนจริง (ดิจิตอล) และโลกจริงเข้าด้วยกัน  ทำให้อุปกรณ์นี้เป็นผู้นำในการปฏิวัติวงการเทคโนโลยี AR ด้วยอินเตอร์เฟสที่ใช้งานได้อย่างง่ายดายจนเกิดความรู้สึกอันน่าทึ่งในช่วงเวลาชั่วข้ามคืน มากไปกว่านั้น Microsoft HoloLens ยังนำเสนอเทคโนโลยี Mixed Reality (MR) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่าง (Augmented Reality)AR และ Virtual Reality (VR) เป็นแนวคิดตั้งแต่เริ่มต้นจนมาเป็นกระแสหลักในปัจจุบัน


Microsoft HoloLens : นวัตกรรมเหนือการจินตนาการ

Microsoft HoloLens มาพร้อมกับลูกเล่นมากมาย ซึ่งบางลูกเล่นก็เป็นเจ้าแรกแห่งวงการอุตสาหกรรม  ตัวอย่างเช่น Spatial Mapping (ระบบการสร้างโฮโลแกรมบนพื้นที่โลกแห่งความจริง) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกันได้ระหว่าง โลกดิจิตอลและโลกจริงไปพร้อมๆ กัน , Spatial Sound (ระบบเสียงตามทิศทางและตำแหน่ง)  เป็นลูกเล่นการได้ยินแบบ 3 มิติ ทำให้สิ่งแวดล้อมแบบ AR สมจริงมากยิ่งขึ้น และยังมีการนำเสนอเทคโนโลยี  Gaze Tracking (ระบบการตรวจจับและวิเคราะห์ดวงตา) ที่ทำให้อุปกรณ์นี้รู้ถึงว่าผู้ใช้งานมองเห็นอะไร  ให้ความรู้สึกตอบสนองได้อย่างเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อ

Microsoft HoloLens : อนาคตแห่งโลกอุตสาหกรรม

Microsoft HoloLens ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีเท่านั้น  มันยังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม ตั้งแต่การดูแลสุขภาพไปจนถึงด้านการศึกษาและความบันเทิง , Microsoft HoloLens มีแอปพลิเคชันต่างๆ มากมาย ที่สามารถใช้งานได้ทุกสถานที่ อาทิเช่น งานด้านศัลยแพทย์สามารถนำไปใช้วางแผนการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน , นักศึกษาสามารถนำไปใช้เพื่อการเรียนรู้ทางไกลร่วมกัน และสถาปนิกสามารถนำไปใช้เพื่อการออกแบบโครงสร้างในรูปแบบ 3 มิติ  แอปพลิเคชันเหล่านี้ยังมีความสำคัญในปัจจุบัน จึงกล่าวได้ว่า Microsoft HoloLens เป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง

การเข้าสู่วงการ AR ของ Apple : ในช่วงเวลาต่อมา
เร็วๆ นี้ ปี ค.ศ. 2023 , บริษัท Apple ได้ออกผลิตภัณฑ์ AR ที่เป็นของตัวเอง  ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Apple แต่คุณสมบัติหลายๆ อย่างที่ทาง Apple นำเสนอกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft HoloLens ที่มีมานานนับหลายปี   อุปกรณ์ AR ของ Apple ได้แสดงคุณสมบัติ อาทิเช่น 3D Sound , Gaze Tracing และ Spatial Mapping  ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ใน Microsoft HoloLens ที่มีผู้ใช้งานมานานนับเกือบ10ปี

Apple AR : ถูกสร้างขึ้นมาจากความสำเร็จของ Microsoft HoloLens
มันไม่เป็นความลับอีกต่อไปเมื่อการเข้าสู่ AR ของ Apple นั้นเกิดมาจากความสำเร็จของ Microsoft HoloLens เพราะมีคุณสมบัติหลายอย่างที่คล้ายคลึงกัน  จึงเห็นได้ชัดว่านวัตกรรมของ Microsoft ได้ชี้นำเส้นทางสำหรับ Apple. สิ่งนี้ไม่ใช่ข้อผิดพลาด แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่า Microsoft HoloLens ล้ำหน้าอย่างแท้จริง และเป็นมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรม ARMicrosoft VS Apple  : วิวัฒนาการของ ARในขณะที่การเข้าสู่เทคโนโลยี AR ของ Apple นั้นเป็นการพัฒนาที่สำคัญ แต่ก็จำเป็นที่จะต้องรู้ถึงรากฐานของ Microsoft HoloLens.  Microsoft HoloLens ไม่เพียงแค่ทำให้พวกเรารู้จักกับเทคโนโลยี AR  เท่านั้นมันยังมีความสามารถในการเรียนรู้และตอบสนองกับสภาพแวดล้อมที่เป็นดิจิทัล  และถึงแม้ว่าอุปกรณ์ AR ของค่าย Apple เองก้าวไปถึงจุดนั้นได้  แต่หลายๆ คุณสมบัติของนวัตกรรมต่างๆนั้น มันเริ่มต้นมาจากโดย  Microsoft

สรุป : ทศวรรษแห่งความก้าวหน้าของ AR

Microsoft HoloLens ได้ปฏิวัติตลาด AR อย่างไม่ต้องสงสัย  แม้ว่าการเข้ามาของ Apple จะได้รับการตอบรับและจะขยายตลาดออกไป แต่ก็ยังยืนอยู่บนไหล่ของ Microsoft HoloLens ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรม AR ซึ่งยังคงเติบโตและพัฒนาต่อไป

A Comprehensive Look: How Microsoft HoloLens Paved the Way, a Decade Before Apple | by Sankalp Pathak | Jul, 2023 | Medium

HoloPatient

เป็นโปรแกรมจำลองสถานการณ์ทางคลินิก ส่วนหนึ่งของโปรแกรม GiG XR เหมาะสำหรับการศึกษาผู้ป่วยเสมือนจริงที่ได้มาตรฐาน เรียนรู้ได้จากทุกที่ทั้งระยะใกล้ และระยะไกล สามารถออกแบบแผนการเรียนรู้เองได้ อีกทั้งยังสามารถแชร์ประสบการณ์เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มได้ ตัวโปรแกรมสามารถปรับสัญญาณชีพผู้ป่วยเพื่อฝึกทำการวิเคราะห์ และสามารถเพิ่ม Label เพื่อระบุส่วนที่สำคัญๆได้

ปัจจุบันตัวโปรแกรมสามารถสร้างสถานการณ์ได้มากถึง 16 สถานการณ์ มีดังนี้

  • แผลไฟไหม้
  • โรคภูมิแพ้
  • ภาวะการกระทบกระเทือนทางจิตใจ
  • โรคเบาหวาน
  • ภาวะการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  • ภาวะหัวใจล้มเหลว
  • โรคหลอดเลือดสมอง
  • โรคหอบหืด
  • โควิด-19
  • ภาวะสมองเสื่อม
  • โรคพาร์กินสัน
  • ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ
  • กระดูกสะโพกหัก
  • ภาวะครรภ์เป็นพิษ
  • กล้ามเนื้อหัวใจตาย

HoloLens คืออะไร

โฮโลเลนส์ คือแว่น MR ที่ทาง Microsoft ได้พัฒนาขึ้น จุดเด่นของแว่น MR ที่ต่างจาก AR คือสามารถใช้ท่าทางของมือ (Hand gestures) ในการโต้ตอบกับภาพโฮโลแกรมที่แสดงในแว่นได้ ความแตกต่างระหว่างแว่น MR และแว่น VR (เช่น Oculus Quest) คือเลนส์ของแว่น MR เป็นเลนส์กึ่งโปร่งแสง ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองทะลุจอแสดงผลภาพโฮโลแกรมไปเห็นสภาพแวดล้อมจริง ๆ ได้ ในขณะที่แว่น VR ไม่สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมจริงได้ ยกเว้นแต่จะดึงภาพจากกล้องที่ติดตั้งไว้มาแสดงผลแทน ดังนั้นแว่น MR Microsoft HoloLens จึงเหมาะกับงานที่ต้องมองเห็นสภาพแวดล้อมภายนอกด้วย เช่น งานแสดงผลข้อมูลเครื่องจักรในไลน์ผลิต งานเทรนนิ่งต่าง ๆ หรืองานที่เป็นการแมพภาพโฮโลแกรมเข้ากับสภาพแวดล้อมจริง เป็นต้น

งานแสดงผลข้อมูลของเครื่องจักร เครื่องจักรในไลน์ผลิตควรสามารถเชื่อมต่อข้อมูลเข้ากับเน็ตเวิร์กได้ เป็นอุปกรณ์จำพวก IoT (Internet of Things) หรือ IIoT (Industrial Internet of Things) เพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูลขณะกำลังผลิตกับแว่น MR ได้แบบ real-time การรับส่งข้อมูลพื้นฐานสามารถใช้โปรโตคอล MQTT เป็นตัวกลางระหว่างเครื่องจักรกับแว่น MR ได้ โดยตั้งค่าโบรกเกอร์กลาง (MQTT Broker) และตั้งค่าหัวข้อ (Topics) สำหรับรับส่งข้อมูลให้ตรงกัน ข้อดีของโปรโตคอล MQTT คือ สามารถรับส่งเป็นข้อความได้เลย (string) ทำให้สามารถเซ็ตอัพข้อมูลและทำความเข้าใจได้ง่าย เป็นจุดเด่นของการพัฒนาแอพลิเคชันสำหรับทำ Data visualization บนแว่น MR เลยทีเดียว

งานทางด้านเทรนนิ่งทางบริษัทก็ได้มีซอฟท์แวร์สำหรับทำคู่มือเทรนนิ่งแบบ MR ใช้ร่วมกับแว่น Microsoft HoloLens 2 ไว้ด้วย หรือถ้าหากประเมินแล้วว่าต้องการให้แอพลิเคชันที่ใช้เทรนนิ่งมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นก็สามารถปรึกษาเพื่อทำ Custom application ให้เหมาะกับงานนั้น ๆ ได้เช่นกัน